หลายประเทศในยุโรป เริ่มบังคับใช้ข้อจำกัดหลายอย่างเพื่อรับมือกับการระบาดของโควิด-19 รอบใหม่ นับตั้งแต่มีการผ่อนคลายการล็อกดาวน์
มาตรการเหล่านี้มีอะไรบ้าง และแตกต่างกันอย่างไรในแต่ละประเทศ
สเปน: ออกคำเตือนการเดินทางหลังยอดผู้ติดเชื้อพุ่ง
เมื่อวันที่ 4 พ.ค. สเปนเริ่มผ่อนคลายการล็อกดาวน์ที่เข้มงวดที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป ซึ่งมีการห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 14 ปีออกจากบ้านนาน 6 สัปดาห์
แม้ว่าไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ดูเหมือนจะควบคุมได้ในพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศ แต่ในแคว้นคาตาลูญญา รวมถึงนครบาร์เซโลนา และแคว้นอารากอนที่อยู่ติดกันทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ มีจำนวนผู้ติดเชื้อพุ่งสูงขึ้นในเดือน ก.ค.
ทางการจึงออกคำสั่งให้ผู้อยู่อาศัยในแคว้นคาตาลูญญา 4 ล้านคน อยู่แต่ในบ้าน และอาจจะมีการออกมาตรการที่เข้มงวดกว่านี้เพิ่มเติม
ส่วนในกรุงมาดริดมีจำนวนผู้ติดเชื้อพุ่งสูงขึ้นทำให้มีการออกกฎบังคับสวมหน้ากากในที่สาธารณะ ไม่ว่าจะรักษาระยะห่างได้หรือไม่ก็ตาม
บางประเทศในยุโรปได้ออกคำเตือนการเดินทางมายังภูมิภาคที่ได้รับผลกระทบของสเปน โดยสหราชอาณาจักรออกกฎให้ผู้ที่เดินทางมาจากสเปนทุกคนต้องกักตัวนาน 14 วัน
เยอรมนี: บังคับตรวจโควิด-19 ที่สนามบิน
เยอรมนีเริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ในเดือน เม.ย. อนุญาตให้ร้านค้าขนาดเล็กกลับมาเปิดร้านได้
ในเดือน พ.ค. ร้านค้าทุกขนาดและโรงเรียนทุกแห่งเริ่มกลับมาเปิด ฟุตบอลบุนเดสลีกากลับมาแข่งขันแต่ไม่ให้คนเข้าชม
อย่างไรก็ตาม จำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มสูงขึ้นที่เกี่ยวข้องกับโรงงานแปรรูปเนื้อสัตว์แห่งหนึ่งใกล้กับเมืองกือเทิร์สโล (Gütersloh) ทำให้ต้องมีการล็อกดาวน์รอบใหม่ในพื้นที่เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.
รัฐบาลประกาศว่า ตั้งแต่ 8 ส.ค. เป็นต้นไป จะบังคับให้ตรวจหาเชื้อโรคโควิด-19 ที่สนามบินโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย สำหรับผู้ที่เดินทางมาจากประเทศที่มีความเสี่ยงสูงทุกคน
รัฐบาลท้องถิ่นและรัฐบาลกลางของเยอรมนียังเห็นชอบออกกฎใหม่หลายข้อในการควบคุมการระบาดภายในประเทศในอนาคต อย่างเช่น การห้ามเดินทางเข้าออกพื้นที่ที่มีการระบาดสูง
เด็ก ๆ เริ่มกลับไปเรียนหนังสือในโรงเรียนในเดือน ส.ค. และในบางพื้นที่ พวกเขาจะต้องสวมหน้ากากตลอดเวลาด้วย
ฝรั่งเศส: ห้ามคนรวมตัวกันจำนวนมากในบางภูมิภาค
ฝรั่งเศสเริ่มใช้มาตรการล็อกดาวน์ในวันที่ 17 มี.ค. และเริ่มผ่อนคลายข้อจำกัดต่าง ๆ ลงเมื่อวันที่ 11 พ.ค.
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่มีการระบาดรอบใหม่ในเดือน ก.ค. รัฐบาลฝรั่งเศสได้บังคับให้ทุกคนสวมหน้ากากในสถานที่สาธารณะทุกแห่งที่เป็นพื้นที่ปิด
รัฐบาลระบุว่า จะบังคับใช้การล็อกดาวน์ระดับท้องถิ่นแทนที่จะเป็นการล็อกดาวน์ทั่วประเทศ ถ้ามีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นเป็นระลอกที่สอง
จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นในทางตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศ โดยเฉพาะในเมืองมาเยนน์ (Mayenne) และในหลายภูมิภาคทางตะวันออก ซึ่งมีการบังคับให้สวมหน้ากากเมื่อออกนอกบ้าน และห้ามรวมตัวกันเกิน 10 คน
รีสอร์ตริมทะเลบางแห่ง ซึ่งขณะนี้เต็มไปด้วยผู้คนที่หนีร้อนมาพักผ่อน ได้ออกกฎให้ผู้มาพักอาศัยสวมหน้ากากทั้งขณะที่อยู่ภายในอาคารและกลางแจ้ง
เมืองตูลูสได้ออกกฎใหม่หลายข้อที่กำหนดให้มีการสวมหน้ากากตามย่านที่มีคนพลุกพล่านที่สุดของเมือง โดยกรุงปารีสและเมืองอื่น ๆ อีกจำนวนหนึ่งคาดว่าจะออกกฎนี้เช่นกัน
อิตาลี: ตำรวจปิดแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม
การล็อกดาวน์ที่เข้มงวดของอิตาลีเริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 7 มี.ค. และทยอยยกเลิกในอีก 2 เดือน ต่อมา
บาร์ ร้านอาหาร ร้านทำผม พิพิธภัณฑ์ และแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ กลับมาเปิดอีกครั้งโดยให้มีการรักษาระยะห่างทางสังคมอย่างเคร่งครัด และบังคับให้สวมหน้ากาก
เมื่อวันที่ 3 มิ.ย. อิตาลีกลับมาเปิดพรมแดนและยุติข้อจำกัดในการเดินทางในภูมิภาคทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม จำนวนผู้ติดเชื้อกลับมาเพิ่มสูงขึ้นในเดือน ก.ค. ในกรุงโรมและในภูมิภาคลาซิโอ
ตำรวจได้ปิดจัตุรัสยอดนิยมหลายแห่งในกรุงโรม เพื่อจำกัดฝูงชนในช่วงสุดสัปดาห์ คลับที่ไม่ปฏิบัติตามมาตรการรักษาระยะห่างทางสังคมก็ถูกปิดด้วย
เบลเยียม: ชะลอการผ่อนคลายออกไปอีก
ในเบลเยียม ร้านค้า โรงเรียน ตลาด พิพิธภัณฑ์ สวนสัตว์ ร้านทำผม และร้านเสริมความงาม ทยอยกลับมาเปิดตั้งแต่ช่วงต้นเดือน พ.ค.
การจัดการแข่งขันกีฬาต่าง ๆ พิธีทางศาสนา และงานเลี้ยงฉลองของหมู่บ้านได้รับอนุญาตให้จัดได้ตั้งแต่ 1 ก.ค. โดยจำกัดผู้เข้าร่วมงานหรือผู้ชมภายในอาคารไม่เกิน 200 คน และกลางแจ้งไม่เกิน 400 คน
อย่างไรก็ตาม ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นในเบลเยียม
เมืองแอนต์เวิร์ป ซึ่งมีผู้ติดเชื้อพุ่งสูงขึ้นได้ออกกฎเคอร์ฟิวในช่วงสิ้นเดือน ก.ค. ห้ามคนนั่งร่วมโต๊ะเกิน 4 คนในร้านอาหาร แต่ครอบครัวที่มีสมาชิกมากกว่า 4 คน สามารถนั่งด้วยกันได้
รัฐบาลตัดสินใจชะลอการผ่อนคลายมาตรการในระยะถัดไปซึ่งจะเริ่มในวันที่ 1 ส.ค. ออกไป และได้ออกคำเตือนการเดินทางไปยังหลายพื้นที่ในยุโรป
ในขณะเดียวกัน หลายประเทศในยุโรป ก็ได้ออกคำเตือนห้ามเดินทางมาเบลเยียมถ้าไม่มีความจำเป็น ส่วนสหราชอาณาจักรออกกฎให้ทุกคนที่เดินทางมาจากเบลเยียมต้องกักตัวนาน 14 วัน
ไนต์คลับยังคงปิดบริการ และไม่มีการจัดงานขนาดใหญ่อย่างงานเทศกาลต่าง ๆ
เนเธอร์แลนด์: ออกคำเตือนการเดินทาง
วันที่ 1 ก.ค. เนเธอร์แลนด์ ได้ยกเลิกการจำกัดจำนวนคนทั้งที่อยู่ภายในและภายนอกร้านค้าและบริการบางอย่าง แต่ให้มีการรักษาระยะห่างทางสังคม 1.5 เมตรอย่างเคร่งครัด
มีการผ่อนคลายการล็อกดาวน์เพิ่มเติม ยกตัวอย่าง อนุญาตให้กลับมาเปิดสถานบริการทางเพศได้ในวันที่ 1 ก.ค. จากเดิมที่วางแผนจะให้กลับมาเปิดได้ในเดือน ก.ย.
อย่างไรก็ตาม อัตราการติดเชื้อเริ่มสูงขึ้นอีกครั้ง และมีการประกาศมาตรการใหม่ในวันที่ 6 ส.ค. รวมถึงการปิดร้านกาแฟ โรงภาพยนตร์ พิพิธภัณฑ์ และสวนสนุก นาน 14 วัน ในกรณีที่มีการระบาดเกิดขึ้น มีการให้อำนาจเจ้าหน้าที่ทางการท้องถิ่นในการบังคับใช้กฎเคอร์ฟิวและข้อจำกัดอื่น ๆ เพิ่มเติม
รัฐบาลเตือนว่า ไม่ควรเดินทางไปยังสวีเดน โครเอเชีย โรมาเนีย บัลแกเรีย และหลายพื้นที่ของสเปน สหราชอาณาจักร โปรตุเกส และเบลเยียม หากไม่มีความจำเป็น นอกจากนี้ก็จะมีการตรวจหาโควิด-19 ตามความสมัครใจที่สนามบินต่าง ๆ ให้แก่ผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงด้วย
โปรตุเกส: ไนต์คลับยังปิดบริการ
โปรตุเกสมีจำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 น้อยกว่าหลายประเทศแถบยุโรปใต้
ทุก ๆ 15 วัน รัฐบาลจะอนุญาตภาคส่วนต่าง ๆ ของระบบเศรษฐกิจกลับมาเปิดดำเนินการอีกครั้ง ได้แก่ ร้านอาหาร ร้านกาแฟ พิพิธภัณฑ์ และชายหาด ซึ่งกลับมาเปิดในเดือน พ.ค. และ มิ.ย.
ระยะสุดท้ายของการผ่อนคลายเริ่มขึ้นในวันที่ 1 ก.ค. โรงแรมต่าง ๆ ยังคงเปิดบริการ แต่ไนต์คลับยังปิดอยู่
สหราชอาณาจักรออกคำเตือนการเดินทางที่ไม่จำเป็นไปยังโปรตุเกส นับตั้งแต่พบจำนวนผู้ติดเชื้อพุ่งสูงขึ้นในกรุงลิสบอน รัฐบาลโปรตุเกสได้ตำหนิเรื่องนี้ โดยนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษมักจะเดินทางไปยังโปรตุเกสและสเปนในช่วงฤดูร้อน
กรีซ: จัดให้มีการจัดหาโควิด-19 ที่สนามบินแก่ผู้โดยสาร
กรีซพบผู้ติดเชื้อโรคโควิด-19 คนแรกเมื่อ 26 ก.พ. ที่ผ่านมา และรัฐบาลได้บังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์อย่างรวดเร็ว
มาตรการผ่อนคลายเริ่มขึ้นในช่วงปลายเดือน เม.ย. โดยให้ความสำคัญกับการเปิดประเทศในช่วงฤดูร้อน
อย่างไรก็ตามจำนวนผู้ติดเชื้อเริ่มสูงขึ้นอีกครั้งในเดือน ก.ค.
นับตั้งแต่ 29 ก.ค. มีการบังคับสวมหน้ากากในซูเปอร์มาร์เก็ต ร้านค้า ร้านกาแฟ ธนาคาร สำนักงานของทางการ และร้านทำผม
ผู้ที่เดินทางไปยังกรีซจะต้องกรอกแบบฟอร์มยืนยันที่อยู่ทางออนไลน์ภายในเวลาอย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนการเดินทาง เพื่อที่จะได้มีการตามตัวคนคนนั้นได้กรณีเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้น
ตั้งแต่วันที่ 5 ส.ค. สนามบินระหว่างประเทศในกรุงเอเธนส์จะจัดให้มีการทดสอบหาเชื้อโรคโควิด-19 แก่ผู้โดยสารทุกคนตามการร้องขอ โดยมีค่าใช้จ่าย 70 ยูโร หรือประมาณ 2,500 บาท
สาธารณรัฐไอร์แลนด์: ไม่สนับสนุนให้เดินทางไปต่างประเทศโดยไม่จำเป็น
ไอร์แลนด์มีการล็อกดาวน์ที่เข้มงวดกว่าสหราชอาณาจักร โดยผู้พักอาศัยได้รับอนุญาตให้ออกกำลังกายนอกบ้านภายในระยะ 2 กม. จากบ้านของตัวเอง การผ่อนคลายข้อจำกัดต่าง ๆ เริ่มทยอยประกาศตั้งแต่ 18 พ.ค. ที่ผ่านมา
รัฐบาลไม่แนะนำให้เดินทางไปต่างประเทศโดยไม่มีความจำเป็น รวมถึงการเดินทางไปอังกฤษ แต่ไม่รวมถึงไอร์แลนด์เหนือ และยังรวมถึงการเดินทางด้วยเรือสำราญด้วย
มีบางประเทศที่ได้รับการยกเว้นจากคำแนะนำ รวมถึงจุดหมายปลายทางท่องเที่ยวยอดนิยมอย่าง อิตาลีและกรีซ คนที่เดินทางกลับมาจากประเทศเหล่านี้ไม่จำเป็นต้องปฏิบัติตามข้อจำกัดเมื่อเดินทางเข้าประเทศ
"การเดินทาง" - Google News
August 09, 2020 at 01:10PM
https://ift.tt/31xSNgp
โควิด-19 : ประเทศต่าง ๆ ในยุโรป มีมาตรการควบคุมการระบาดอย่างไร - บีบีซีไทย
"การเดินทาง" - Google News
https://ift.tt/2XBGrDF
No comments:
Post a Comment